28 กันยายน วันพระราชทานธงชาติไทย
วันพระราชทานธงชาติไทย (อังกฤษ: Thai National Flag Day) เป็นวันที่ระลึกถึงโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติธง พระพุทธศักราช
๒๔๖๐ โดยมีสาระสำคัญคือ การประกาศให้ธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทยสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน
ซึ่งได้มีการประกาศไว้ ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2460[1] สำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
จึงเสนอให้วันที่ 28 กันยายน ของทุกปีเป็นวันพระราชทานธงชาติไทย และในวันที่ 20
กันยายน พ.ศ. 2559 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ที่ประชุมซึ่งนำโดย
พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ 28 กันยายน ของทุกปีเป็น
วันพระราชทานธงชาติไทย โดยให้เริ่มในวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2560 เป็นปีแรก
เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี ธงชาติไทย แต่ไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ[2]
รวมทั้งกำหนดให้มีการชักธงและประดับธงชาติไทยในวันดังกล่าวด้วย
เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ
และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
และถือเป็นประเทศที่ 54 ของโลกที่มีวันธงชาติ โดยการกำหนดวันธงชาติของต่างประเทศ
ล้วนอิงกับภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ และการสร้างชาติของแต่ละประเทศ
ในปี พ.ศ. 2560
ซึ่งเป็นปีแรกที่รัฐบาลประกาศให้มีกิจกรรมวันพระราชทานธงชาติไทยนั้น
ถือเป็นปีที่มีการจัดกิจกรรมครบรอบ 100 ปี ธงชาติไทยด้วย ในวันที่ 28 กันยายน
ที่ตึกไทยคู่ฟ้า และตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล จึงมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 100 ปี
ธงชาติไทย และมีนิทรรศการวันพระราชทานธงชาติไทย ชื่อว่า "100 ปี ธงชาติไทย
ร้อยดวงใจไทยทั้งชาติ" โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เป็นประธานในกิจกรรมครั้งนี้ โดยมีส่วนราชการต่าง ๆ
มาร่วมในพิธีนี้ด้วยตั้งแต่เวลา 07:45 น. โดย พล.อ.ประยุทธ์
รับการเคารพจากหมู่เชิญธง และมอบธงชาติไทยแก่หัวหน้าชุดหมู่เชิญธง
จากนั้นชุดหมู่เชิญธงนำธงชาติไทยที่ได้รับมอบจากนายกรัฐมนตรี
มายังบริเวณแท่นหน้าเสาธง ขณะที่นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี
พร้อมกันยังจุดบริเวณแท่นหน้าเสาธง ตึกสันติไมตรี เพื่อยืนเคารพธงชาติไทย
และร่วมร้องเพลงชาติไทยในเวลา 08:00 น. จากนั้นเปิดนิทรรศการวันพระราชทานธงชาติไทย
พร้อมทั้งมอบตราสัญลักษณ์ ให้แก่หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง
ประวัติธงชาติไทย
1. ผืนธงสีแดงล้วน
“ธงชาติไทย”
เริ่มมีใช้ครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช. เนื่องด้วยฝรั่งเศสได้นำเรือรบเข้ามาถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา
เพื่อเจริญสัมพันธไมตรีและการค้า นายเรือฝรั่งเศสได้ร้องขอให้สยามชักธงชาติขึ้น
เพื่อจะยิงปืนใหญ่สลุต แต่สยามขณะนั้น หาได้มีธงชาติใช้ไม่
จึงได้นำผืนผ้าสีแดงสดชักขึ้นแทน กองเรือฝรั่งเศสเห็นดังนั้นจึงได้ยิงปืนใหญ่สลุต
พร้อมนำเรือแล่นผ่านป้อมวิไชเยนทร์ เมื่อวันที่ 3 กันยายน พุทธศักราช 2223
และนั่นคือ ธงชาติไทยผืนแรก ของสยามประเทศ
2. ผืนธงสีแดง จักรสีขาว
ครั้นถึงรัชสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
พระองค์ทรงกำหนดให้ใช้ “จักร” อันเป็นเครื่องหมายแห่งพระบรมราชวงศ์จักรี.
ลงไว้กลางธงผ้าผืนแดงสำหรับใช้ในเรือหลวง ส่วนเรือราษฎร์นั้นให้ใช้คงเดิม
3. ผืนธงสีแดง ช้างสีขาวกลางวงจักรสีขาว
ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
รัชกาลที่ 2 ได้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ขึ้นบนผืนแผ่นดินสยาม คือ
การได้ช้างเผือกเข้ามาสู่รัชกาลถึง 3 ช้าง ได้แก่ พระยาเศวตกุญชร พระยาเศวตไอยรา
และ พระยาเศวตคชลักษณ์ ซึ่งถือว่าเป็นพระเกียรติยศอันสูงสุด
จึงโปรดทำรูปช้างสีขาวไว้กลางวงจักรสีขาว กลางผืนธงแดง
ส่วนเรือราษฎร์นั้นให้คงเดิม
4. ผืนธงสีแดง ช้างสีขาว
ล่วงเข้ารัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4 พระองค์ทรงมีพระบรมราชโองการให้เอารูปจักรออก
เนื่องจากทรงเห็นว่าจักรเป็นของสูง โดยให้ใช้รูปช้างเผือกบนผืนผ้าแดง และให้เรือหลวง
เรือราษฎร์ ใช้เหมือนกัน
5. ผืนธงสีแดง ช้างทรงเครื่อง
เมื่อปีพุทธศักราช 2434
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ทรงมีพระราชดำรัสให้
ผืนธงแดงตรงกลางมีรูปช้างเผือกทรงเครื่อง หันหน้าเข้าข้างเสา
สำหรับใช้ในเรือหลวงทั้งปวง
ที่มา: https://news.mthai.com/webmaster-talk/589724.html
https://qrgo.page.link/q9yD3