เรื่องเล่าต้นยางนา ที่ท่ายาง ร.9 ทรงอนุรักษ์ เพาะเมล็ดปลูก ที่สวนจิตรฯ (25 ต.ค.2559 00.20)
ในหลวงรัชกาลที่ 9 กับการปกปักรักษาพันธุ์ต้นยางนาใน อ.ท่ายาง ที่สองข้างทางมีต้นยางนาขนาดใหญ่ขึ้นอยู่มาก อยากจะสงวนป่ายางไว้แต่ติดขัด สุดท้ายทรงนำเมล็ดไปเพาะและปลูกไว้ที่วังสวนจิตรฯ เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของ จ.เพชรบุรี…วันที่ 24 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ พ.ศ.2503 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพยายามปกปักรักษาต้นยางนาจากริมถนนเพชรเกษม จ.เพชรบุรี จนกระทั่ง 2504 ได้ทรงนำเมล็ดพันธุ์ยางนา ไปทรงปลูก ณ วังสวนจิตรลดา พร้อมกับมีพระราชปรารภว่า
"ไม้ยางนาในประเทศไทย ได้ถูกตัดฟันไปใช้สอย และทำเป็นสินค้ากันเป็นจำนวนมากขึ้นทุกปี เป็นที่น่าวิตกว่า หากมิได้ทำการบำรุงส่งเสริม และดำเนินการปลูกไม้ยางนาขึ้นแล้ว ปริมาณไม้ยางนาจะลดน้อยลงไปทุกที จึงควรที่จะได้มีการดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับการปลูกไม้ยางนา เพื่อจะได้นำความรู้ไปใช้ในทางปฏิบัติ...”
จากนั้น ในฤดูร้อนเกือบทุกปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ วังไกลกังวล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในระยะแรกเสด็จพระราชดำเนินโดยรถไฟ ต่อมาเสด็จฯโดยรถยนต์พระที่นั่ง เมื่อเสด็จผ่านอำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี สองข้างทางมีต้นยางนาขนาดใหญ่ขึ้นอยู่มาก ทรงมีพระราชดำริที่จะสงวนป่ายางแห่งนี้ไว้เป็นสวนสาธารณะด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ แต่ไม่สามารถจัดถวายได้ตามพระราชประสงค์ เพราะมีราษฎรทำไร่ ทำสวน ในบริเวณนั้นมาก จึงทรงเปลี่ยนวิธีด้วยการนำเอาเมล็ดยางนาบริเวณนั้นไปเพาะขยายพันธุ์ในกระถาง ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล และทรงนำไปปลูกในแปลงทดลองใกล้พระตำหนักเรือนต้น สวนจิตรลดา พร้อมข้าราชบริพาร เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2504 จำนวน 1,096 ต้น
แม้ยางนาจากแหล่งกำเนิดเหล่านั้นจะสูญสิ้น แต่พันธุกรรมของยางนาเหล่านั้น ยังอนุรักษ์ไว้ได้ที่สวนจิตรลดา ซึ่งต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำพรรณไม้จากภาคต่างๆ ทั่วประเทศ มาปลูกในบริเวณที่ประทับ สวนจิตรลดา เพื่อให้เป็นที่ศึกษาพรรณไม้ของนิสิต นักศึกษา แทนที่จะต้องเดินทางไปทั่วประเทศ
นายบรรพต กำไลแก้ว อดีตนายก อบต.ถ้ำรงค์ ได้พูดถึงความปลาบปลื้มปีติที่ในหลวงได้ทรงนำเมล็ดพันธุ์ยางนาจาก ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี (อยู่ติดกับอำเภอท่ายาง) แห่งนี้ไปปลูกไว้ในวังสวนจิตรลดา ทรงสอนให้เห็นว่า ไม้ยางนานี้ เป็นไม้ที่มีประโยชน์ควรที่จะอนุรักษ์และปลูกเพิ่มกันไว้ เนื่องจากจะใช้ในการนำไม้มาสร้างบ้าน สร้างเรือนได้ แต่ก่อน ใช้น้ำยางมาทำขี้ไต้ จุดไฟส่องแสงสว่างนำทาง เป็นเชื้อเพลิงและเป็นยารักษาโรคได้ ปัจจุบันยางนาเกือบจะหมดไป แทบจะไม่มีการปลูกเพิ่ม เพราะเป็นไม้หวงห้าม ปลูกได้ แต่เมื่อจะตัดต้องขออนุญาตและได้รับอนุญาตก่อนจึงจะตัดมาใช้ได้ แม้ว่าจะอยู่ในที่ดินมีเอกสารสิทธิ
"ในปี 2560 นี้ ผมพร้อมด้วยชาวตำบลถ้ำรงค์ จะรวบรวมเมล็ดมาขยายพันธุ์ และเชิญชวนท้องถิ่นต่างๆ ช่วยกันปลูกเพิ่ม เพื่อให้เป็นไม้ประวัติศาสตร์ของชาว จ.เพชรบุรี ที่ทรงนำไปปลูกในวังสวนจิตลดา อันนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงถ่ายทอดให้เห็นความสำคัญของไม้ยางนา จากป่ายางแห่งนี้ต่อไป" นายบรรพต กล่าว.
ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/763212